ด้วยภาพลักษณ์ที่สง่างามเป็นถึงตัวแทนของรัฐไปทำงานต่างแดน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดอาชีพ “นักการทูต” จึงเป็นอาชีพในอุดมคติของใครหลายคน แต่สำหรับขันทอง เนื้อนวล นักการทูตวัย 32 ปี แห่งสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกงแล้ว อาชีพนี้ไม่ได้มีแต่ภาพสวยหรูอย่างที่ใครหลายคนคาดไว้ มาลอง
ฟังเรื่องราวการออกประจำการต่างประเทศของนักการทูตหนุ่มคนนี้ดูว่าสี่ปีในฮ่องกงเขาต้องพบเจออะไรมาบ้าง
ชีวิตในฮ่องกงเป็นอย่างไร?
ขันทอง: ฮ่องกงเป็นเมืองที่ปรับตัวไม่ยาก มีความเป็นมิตร และผมก็ชอบพบปะผู้คนด้วย แต่เรื่องงานก็หนัก เราดูแลคนไทยกว่าสามหมื่นคนในฮ่องกง วันหยุดเทศกาลก็ต้องทำงานเพราะเป็นช่วงที่คนไทยมาเที่ยว ถ้าเขาทำพาสปอร์ตหาย ที่แรกที่เขาจะมาก็คือสถานกงสุลไทย เพราะเราเป็นประเทศไทยในฮ่องกง นอกจากนี้
ก็มีงานจิปาถะอื่น เช่น ร้องเรียน ยืมเงิน แต่ง-หย่า ทำบัตรประชาชนด้วย งานเยอะมาก
คิดอย่างไรกับการที่คนส่วนใหญ่มองว่าชีวิตนักการทูตสุขสบาย?
ขันทอง: บางทีคนติดภาพนักการทูตจากในละคร ว่าเป็นอาชีพหรูหรางานสบาย แต่ความจริงมันไม่ใช่ อย่างในละครกลรักลวงใจที่เลขาฯ โทรมาขอว่า “วันนี้ไม่เข้างานนะ” ในชีวิตจริง ถ้าไม่เข้างานก็กลับกรุงเทพฯ ไปดีกว่า ความจริงไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น
บางทีเราก็ต้องไปเยี่ยม ไปดูแลคนไทยในคุก ส่วนใหญ่จะติดคุกจากกรณีขนยาเสพติดเข้ามาในฮ่องกง เราจะเป็นเหมือนที่พึ่งด่านแรกของพวกเขาเลย เคยมีกรณีไปช่วยหญิงขายบริการด้วย เป็นหญิงขายบริการชาวไทยที่อยากหนีจากสภาพแวดล้อมที่นี่ เราก็ขับรถไปรับเขา ปิดม่านไม่ให้มาเฟียเห็น พามาพักที่สถานกงสุล แล้วจัดซื้อตั๋วส่งกลับไทยให้
เคยเจอเหตุการณ์หรือกรณีแปลกๆ ไหม?
ขันทอง: เคยช่วยคนไทยที่มีอาการทางจิต เขาบอกว่าตัวเองถูกรัฐบาลจีนฝังชิปมาเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวเขาตลอดเวลา เราต้องค่อยๆ คุยกับเขาว่าคุณควรไปโรงพยาบาลดูก่อน เพื่อสแกนว่ามีชิปฝังจริงไหม ถ้าไม่เจอ ก็ลองไปวัดดู เผื่อโดนของอะไรเข้าไป เราต้องทำให้เขารู้สึกวางใจ ไม่ใช่ไปซ้ำเติม อาจจะดุเขาบ้างตอนเขามีอาการกลัวมากๆ ให้เขารู้ว่าเราอยากช่วย ล่าสุดส่งขึ้นเครื่องกลับไทยไปแล้ว
รู้สึกอย่างไรกับการเป็นนักการทูต?
ขันทอง: อาชีพนักการทูตมีหลายแบบ เช่น UN (United Nations – องค์การสหประชาชาติ) อาจเป็นนักการทูตในอุดมคติของใครหลายคน เพราะทำงานอยู่กับกระดาษ เข้าประชุม เขียนรายงาน แต่ผมชอบแบบที่เป็นอยู่มากกว่า เพราะได้ลงมือทำจริง ช่วยคนได้เต็มที่ เพราะผมยึดว่า ถึงเป็นนักการทูต ก็ต้องถอดสูทออกมาลงดินได้เหมือนกัน
Like this:
Like Loading...
ด้วยภาพลักษณ์ที่สง่างามเป็นถึงตัวแทนของรัฐไปทำงานต่างแดน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดอาชีพ “นักการทูต” จึงเป็นอาชีพในอุดมคติของใครหลายคน แต่สำหรับขันทอง เนื้อนวล นักการทูตวัย 32 ปี แห่งสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกงแล้ว อาชีพนี้ไม่ได้มีแต่ภาพสวยหรูอย่างที่ใครหลายคนคาดไว้ มาลอง
ฟังเรื่องราวการออกประจำการต่างประเทศของนักการทูตหนุ่มคนนี้ดูว่าสี่ปีในฮ่องกงเขาต้องพบเจออะไรมาบ้าง
ชีวิตในฮ่องกงเป็นอย่างไร?
ขันทอง: ฮ่องกงเป็นเมืองที่ปรับตัวไม่ยาก มีความเป็นมิตร และผมก็ชอบพบปะผู้คนด้วย แต่เรื่องงานก็หนัก เราดูแลคนไทยกว่าสามหมื่นคนในฮ่องกง วันหยุดเทศกาลก็ต้องทำงานเพราะเป็นช่วงที่คนไทยมาเที่ยว ถ้าเขาทำพาสปอร์ตหาย ที่แรกที่เขาจะมาก็คือสถานกงสุลไทย เพราะเราเป็นประเทศไทยในฮ่องกง นอกจากนี้
ก็มีงานจิปาถะอื่น เช่น ร้องเรียน ยืมเงิน แต่ง-หย่า ทำบัตรประชาชนด้วย งานเยอะมาก
คิดอย่างไรกับการที่คนส่วนใหญ่มองว่าชีวิตนักการทูตสุขสบาย?
ขันทอง: บางทีคนติดภาพนักการทูตจากในละคร ว่าเป็นอาชีพหรูหรางานสบาย แต่ความจริงมันไม่ใช่ อย่างในละครกลรักลวงใจที่เลขาฯ โทรมาขอว่า “วันนี้ไม่เข้างานนะ” ในชีวิตจริง ถ้าไม่เข้างานก็กลับกรุงเทพฯ ไปดีกว่า ความจริงไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น
บางทีเราก็ต้องไปเยี่ยม ไปดูแลคนไทยในคุก ส่วนใหญ่จะติดคุกจากกรณีขนยาเสพติดเข้ามาในฮ่องกง เราจะเป็นเหมือนที่พึ่งด่านแรกของพวกเขาเลย เคยมีกรณีไปช่วยหญิงขายบริการด้วย เป็นหญิงขายบริการชาวไทยที่อยากหนีจากสภาพแวดล้อมที่นี่ เราก็ขับรถไปรับเขา ปิดม่านไม่ให้มาเฟียเห็น พามาพักที่สถานกงสุล แล้วจัดซื้อตั๋วส่งกลับไทยให้
เคยเจอเหตุการณ์หรือกรณีแปลกๆ ไหม?
ขันทอง: เคยช่วยคนไทยที่มีอาการทางจิต เขาบอกว่าตัวเองถูกรัฐบาลจีนฝังชิปมาเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวเขาตลอดเวลา เราต้องค่อยๆ คุยกับเขาว่าคุณควรไปโรงพยาบาลดูก่อน เพื่อสแกนว่ามีชิปฝังจริงไหม ถ้าไม่เจอ ก็ลองไปวัดดู เผื่อโดนของอะไรเข้าไป เราต้องทำให้เขารู้สึกวางใจ ไม่ใช่ไปซ้ำเติม อาจจะดุเขาบ้างตอนเขามีอาการกลัวมากๆ ให้เขารู้ว่าเราอยากช่วย ล่าสุดส่งขึ้นเครื่องกลับไทยไปแล้ว
รู้สึกอย่างไรกับการเป็นนักการทูต?
ขันทอง: อาชีพนักการทูตมีหลายแบบ เช่น UN (United Nations – องค์การสหประชาชาติ) อาจเป็นนักการทูตในอุดมคติของใครหลายคน เพราะทำงานอยู่กับกระดาษ เข้าประชุม เขียนรายงาน แต่ผมชอบแบบที่เป็นอยู่มากกว่า เพราะได้ลงมือทำจริง ช่วยคนได้เต็มที่ เพราะผมยึดว่า ถึงเป็นนักการทูต ก็ต้องถอดสูทออกมาลงดินได้เหมือนกัน
Share this:
Like this: