Community Health

ร้านยาจีนเยาวราช และความอยู่รอดในสายธารแห่งการเปลี่ยนแปลง

เมื่อคนรุ่นเก่าที่นิยมบริโภคยาจีนแผนโบราณเริ่มหายไปตามยุคสมัย ร้านยาจีนส่วนหนึ่งในเยาวราช-เจริญกรุงจึงต้องพากันปิดตัวลง ในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้ เจ้าของกิจการยาจีนที่เหลืออยู่จะมีวิธีการปรับตัวอย่างไรบ้าง

เรื่อง: ธัญวรัตม์ บุตรแสงดี

ภาพ: ศุภกานต์ ผดุงใจ

หนึ่งในปัจจัยสี่ที่คนเราขาดไม่ได้ในการดำรงชีวิตคือยารักษาโรค ในย่านเยาวราช-เจริญกรุงซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ของคนจีน ตามริมถนนและตรอกซอกซอยมักมีร้านขายยาแผนโบราณตั้งอยู่ให้เห็นไม่หนึ่งก็สองร้าน บางร้านก็ถูกปรับแต่งให้คล้ายกับร้านขายยาแผนปัจจุบัน บ้างก็คงไว้ซึ่งความเป็นร้านเก่าแก่ บางร้านก็ยังคงมีการค้าขายอยู่ตามปกติ ในขณะที่บางร้านก็เหลือไว้แต่ป้ายชื่อให้เห็นว่าเคยเป็นร้านอะไรมาก่อน

ร้านยาจีนเป็นกิจการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งความรู้เรื่องการอ่านสูตรยาที่เป็นภาษาจีนโบราณ ไปจนถึงการจดจำชื่อและลักษณะของสมุนไพรที่มีอยู่หลายร้อยชนิด เจ้าของกิจการจึงต้องมีทั้งความเข้าใจเรื่องยาจีนและประสบการณ์การทำงานพอสมควร 

ดังนั้น เมื่อบรรพบุรุษเริ่มต้นมาจากการขายยาจีน องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญที่มี ย่อมต้องส่งต่อให้เฉพาะลูกหลานในตระกูล กิจการยาจีนในย่านนี้จึงมักเป็นการสืบทอดต่อกันในครอบครัว ทั้งยังมีร้านที่เป็นต้นขั้วและร้านที่แตกแขนงออกมาต่างจากกิจการอื่นๆ

สืบทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น

“10 กว่าร้าน ที่ขึ้นชื่อด้วยตัว ‘จิ้น’ เป็นร้านขายยาที่ทุกคนเป็นญาติกันหมด” ชัยพร วีระปรศุ เจ้าของร้านจิ้นเลี้ยงเชียง ร้านยาจีนที่ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุงมากว่า 40 ปี เล่าว่า แต่เดิมบรรพบุรุษของตนเป็นคนฮ่องกง เข้ามาเปิดร้านขายยาจีนในย่านราชวงศ์ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือราวๆ ปี 2486 จากนั้นคนในตระกูลก็ค่อยๆ กระจายตัวออกมาอยู่ตามส่วนต่างๆ ของเยาวราชเพื่อตั้งเป็นร้านของตัวเอง โดยตนเป็นทายาทรุ่นที่สี่ที่แยกตัวออกมาเช่นกัน

ชัยพร วีระปรศุ เจ้าของร้านขายยาจีนจิ้นเลี้ยงเชียงที่กำลังจัดสมุนไพรให้แก่ลูกค้า

ชัยพรอธิบายถึงรูปแบบการขายยาจีนว่า ปกติในร้านจะขายยาอยู่สองประเภทคือ ยาจากสมุนไพรธรรมชาติและยาแบบสำเร็จรูป กลุ่มลูกค้าของร้านก็มีอยู่สองกลุ่มหลักๆ คือแพทย์แผนจีนตามคลินิกและคนทั่วไปในชุมชน สำหรับแพทย์จีน จะเป็นการซื้อยาเพื่อนำไปเข้าตำรับ ส่วนในคนทั่วไปก็จะเป็นการจัดยาให้ตามใบสั่งของแพทย์ “คนที่มาจัดยาที่นี่เขาก็จะมีตำรับยาบำรุงเลย ดูได้ว่าอันนี้กินกับอะไร แต่ถ้าเป็นตำรับยารักษา ต้องไปหาหมอ อยู่ดีๆ เราจะมาจัดให้ไม่ได้”

ในช่วงระยะหลังร้านยาจีนปิดตัวลงมากขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากการกวดขันทางกฏหมาย อย่างเช่นในกรณีของร้านขายยาจีนที่มีการจำหน่ายยาสำเร็จรูป จำเป็นจะต้องมีใบอนุญาตจำหน่ายยา รวมทั้งมีเภสัชกรแผนโบราณเข้ามาประจำด้วย ร้านที่ไม่มีเภสัชกรดูแลจึงต้องปิดตัวลงไป 

แต่นั่นยังไม่ใช่เหตุผลหลักที่ร้านขายยาแผนจีนในเยาวราชทยอยปิดกิจการ 

เจ้าของร้านจิ้นเลี้ยงเชียงกล่าวว่า สาเหตุเป็นเรื่องรายได้เป็นหลัก ด้วยความที่ในปัจจุบันความนิยมในยาแผนจีนนั้นไม่มากเท่าสมัยก่อน เนื่องจากลูกค้าคนเก่าแก่ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักเริ่มหายไป ทำให้ร้านยาจีนในละแวกนี้พากันเลิกกิจการเพราะขายได้น้อยลง ปัจจุบันร้านยาบนถนนเจริญกรุงจึงเหลืออยู่ไม่กี่สิบร้าน “10 ปีที่ผ่านมามีจำนวนร้านปิดเยอะขึ้น จากลูกค้าเดิมซึ่งเราเคยมีอยู่ 100 เดี๋ยวนี้อาจจะเหลือ 20-30 คือปิดไปค่อนข้างเยอะ” 

ชัยพรทิ้งท้ายด้วยความเสียดายว่า หลังจากร้านยาจีนปิดกิจการ ก็ไม่มีใครสนใจจะสืบทอดองค์ความรู้ด้านนี้อีก ตำรับยาจีนมากมายที่ถูกสืบทอดต่อกันมา ต่างก็เลือนหายไปเพราะไม่ถูกจดจำและส่งต่อ หรือกระทั่งยาจีนบางชนิดก็หายไปจากท้องตลาดด้วยเช่นกัน

ชั้นสำหรับเก็บยาสมุนไพร ตามบรรจุภัณฑ์จะมีป้ายชื่อยาเป็นภาษาจีน ซึ่งต้องอาศัยทั้งทักษะการอ่านและจดจำ

ยาจีนกับทางเลือกในการรักษาของชุมชน

ในส่วนของผู้บริโภคเองก็มีความเห็นที่หลากหลาย

เกษม (ไม่ประสงค์ระบุนามสกุล) อดีตผู้ใช้ยาจีน วัย 81 ปี เผยถึงสาเหตุที่เลิกใช้ยาจีน เนื่องจากไม่สามารถแก้อาการป่วยของตัวเองได้ จึงเลือกที่จะกลับไปใช้ยารักษาตามแผนปัจจุบัน 

ขณะที่ สุชาติ วทัญญูสกุล วัย 59 ปี ผู้ใช้ยาจีนในชุมชนอีกราย ให้เหตุผลที่ยังเลือกใช้ยาจีนว่า ตนมั่นใจเพราะอยู่ในครอบครัวคนจีนและใช้มาตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนมากจะกินเพื่อบำรุงร่างกายมากกว่ารักษาโรค เขายังมองว่ายาจีนเป็นยาสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติ มีฤทธิ์น้อยกว่ายาแผนปัจจุบัน

ผู้ใช้ยาจีนบางรายหันมาใช้ยาจีน เนื่องจากไม่สามารถทานยาตามแผนปัจจุบันได้เพราะมีอาการแพ้ อีกกลุ่มคือผู้ป่วยที่รักษาอาการตามแพทย์ทางหลักแล้วคิดว่าไม่สามารถช่วยให้ดีขึ้นได้ จึงหันมาหาทางเลือกอื่นๆ อย่างการรักษาด้วยแพทย์แผนจีนและยาสมุนไพร

แพทย์จีน สุชานุช พันธุ์เจริญศิลป์ หัวหน้าแผนกประกันคุณภาพ ฝ่ายเภสัชกรรม ประจำคลินิกหัวเฉียวแพทย์แผนจีน ให้มุมมองเกี่ยวกับการรักษาด้วยยาจีนว่า สำหรับคนเชื้อสายจีนบางกลุ่มที่มองว่าแพทย์แผนจีนเป็นแพทย์ทางหลัก ยาจีนก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนกลุ่มนี้ ส่วนอีกด้านก็คือเป็นโอกาสสำหรับคนทั่วไปที่ไม่สามารถรักษาตามแผนปัจจุบันได้ “คิดว่ามันก็เป็นประโยชน์ต่อคนไข้ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะถูกจัดว่าเป็นแพทย์อะไรก็ตาม สุดท้ายถ้าคุณรักษาคนไข้หาย มันก็เป็นอีกทางที่เขาเลือกจะรักษา”

เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง แพทย์จีนประจำหัวเฉียวแนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง เนื่องจากแพทย์จะจัดยาสมุนไพรเพื่อการรักษาเฉพาะรายบุคคล ผู้ป่วยไม่ควรบริโภคร่วมกับผู้อื่น  เนื่องจากการจ่ายยาจะมาจากการวินิจฉัยสภาวะร่างกายเป็นหลัก แม้ว่าจะมีอาการเดียวกัน แต่ทั้งชนิดของสมุนไพร ขนาดยา และระยะเวลาในการใช้จะไม่เท่ากัน หากไปรับประทานยาที่จัดสำหรับคนอื่น ก็อาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและสมดุลภายใน อีกทั้งอาจเกิดอาการแพ้ในผู้ใช้บางรายได้ 

แพทย์จีน สุชานุช พันธุ์เจริญศิลป์ หัวหน้าแผนกประกันคุณภาพ ฝ่ายเภสัชกรรม ประจำคลินิกหัวเฉียวแพทย์แผนจีน

“สำหรับบางโรคที่เป็นมันเป็นพื้นฐานมากๆ ร้านยาจีนบางร้านเขาก็จะมีตำรับ มียาสมุนไพรสำเร็จรูปไว้บริการได้ … ในแง่ของการที่ไปหาหมอแล้วเอาใบยามาซื้อยากับร้านยา อันนี้ถือว่าโอเค ปลอดภัย และเป็นการทำตามขั้นตอนที่ดี” แพทย์จีน สุชานุช เสริมเกี่ยวกับความสำคัญของร้านยาจีนชุมชนที่จ่ายยาตามใบสั่งจากแพทย์

สุชานุช ย้ำว่า สิ่งผู้บริโภคยาจีนต้องระวังคือเรื่องการเก็บรักษายาของผู้ประกอบการ เนื่องจากยาสมุนไพรเป็นผลิตผลทางการเกษตรที่มีอายุการใช้งานจำกัด อีกทั้งประเทศไทยยังมีความชื้นสูง ผู้ประกอบการร้านยาจีนจึงควรมีวิธีจัดการกับคลังยา เพื่อหลีกเลี่ยงการเสื่อมคุณภาพจากแมลงและเชื้อรา ไปจนถึงปัจจัยด้านสารปนเปื้อน เช่น สารหนู ยาฆ่าแมลง โลหะหนักต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ดังนั้นสำหรับผู้ใช้ยาจีน จึงควรพิจารณาทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือ และการจัดการในส่วนนี้ของผู้ประกอบการแต่ละรายด้วย

“ร้านยาจีนในชุมชนนี่ มองว่าเขาก็ยังเป็นที่พึ่งพิงของคนในชุมชนตรงนั้นนะ คือถ้าคนในชุมชนยังต้องพึ่งพากันอยู่ … แล้วเขาช่วยให้คนดีขึ้น ผ่านการแนะนำที่ดี มีการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง ปลอดภัยในการใช้ การมีอยู่ มันก็ดีอยู่แล้ว” หัวหน้าแผนกประกันคุณภาพกล่าว

ลูกค้ากลุ่มใหม่และช่องทางใหม่เพื่อความอยู่รอด

เพื่อให้การวินิจฉัยโรคตามการแพทย์แผนจีนมีความน่าเชื่อถือ ร้านยาจีนเยาวราชบางร้านจึงมีแพทย์จีนอยู่ประจำร้าน บางส่วนก็ทำกิจการร่วมกับคลินิกแผนจีนในชุมชน ร้านลักษณะนี้ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายยาและจัดยาตามแพทย์สั่งเท่านั้น

แต่เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีจำกัด ร้านยาอื่นๆ ที่ไม่มีบริการด้านการวินิจฉัยโรคจึงต้องหาหนทางการสร้างรายได้รูปแบบใหม่เพื่อจะทำให้กิจการยังคงอยู่รอดต่อไป

“ในชุมชนมันก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย คือต้องรู้และเปลี่ยนให้ทัน ขายสินค้าตัวเดียวกันมันก็ต้องเปลี่ยนไป” ในประเด็นเรื่องความอยู่รอดของร้านยาจีน เรืองวิทย์ แซ่เอ็ง ทายาทรุ่นที่ห้าของร้านจิ้นหลีเชียง ร้านขายยาจีนเก่าแก่บนถนนเจริญกรุงอีกแห่ง กล่าว

เขาเห็นว่า แม้คนรุ่นเก่าในชุมชนจะลดน้อยลง แต่ในขณะเดียวกันคนที่เดินทางมายังเยาวราชก็มีหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากความสะดวกในการเดินทางผ่านรถไฟฟ้าใต้ดิน ในแต่ละวันก็จะมีผู้คนกลุ่มใหม่ๆ สัญจรผ่านไปมาแทบไม่ซ้ำหน้า ทั้งในแง่ของช่วงอายุไปจนถึงภูมิลำเนาจากทั้งในและนอกเมือง เป็นเหตุให้ตนคิดที่จะปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ

“สมัยก่อนร้านขายยาจีน รายได้หลักคือยาจีน 80-90 เปอร์เซ็นต์ แต่เดี๋ยวนี้ยาจีนมันก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ว่ามันก็ต้องมีส่วนอื่นด้วย … แต่ก่อนเราก็ขายยาจีนอย่างเดียว แต่พอรู้ว่ามันจะมีโครงการรถไฟฟ้ามา เราก็เลยขายหลายอย่างมากขึ้น เริ่มจากขายยาสมุนไพร แล้วเราก็มาแตกเป็นขายยาฝรั่ง ยาไทย แล้วเราก็ขายเครื่องปรุงอาหาร อย่างโกจิเบอร์รีที่กินแล้วตาวิ้งๆ เดี๋ยวนี้ขายดีที่สุดในบรรดายาสมุนไพรเลย เพราะเด็กรุ่นใหม่นิยมซื้อไปทานกัน” เจ้าของร้านจิ้นหลีเชียง กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าให้เท่าทันความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

ร้านขายยาจีนจิ้นหลีเชียงจัดแบ่งพื้นที่เพื่อขายสินค้าแบบผสมผสาน

เรืองวิทย์เสริมว่า ตนมีลูกค้าส่วนหนึ่งที่เป็นคลินิกหมอจีนแถบชานเมืองและในต่างจังหวัด จากการคมนาคมและการสื่อสารที่ง่ายขึ้น ตนก็เริ่มที่จะติดต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และมีบริการส่งสมุนไพรผ่านไปรษณีย์และเดลิเวอรี โดยมองภาพกว้างไปอีก ในอนาคตตนก็สนใจที่จะขยายธุรกิจขึ้นไปบนออนไลน์แบบเต็มตัวเช่นกัน เพียงแต่ยังขาดความรู้ในด้านนี้อยู่มาก

“ถ้าเกิดคุณไม่เริ่ม ค่าเช่ามันก็จะวิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ 30 ปีที่ผ่านมา จากไม่กี่หมื่นตอนนี้มันก็จะหกหลักแล้ว ต่อไปมันก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ จนเราขายไม่ได้ เราก็ต้องเรียนรู้ว่ามันจะอยู่ได้ยังไง ขายยาจีนอย่างเดียวอยู่ไม่ได้หรอก” เรืองวิทย์กล่าวทิ้งท้าย

%d bloggers like this: